ชุดคิท IoT ESP32 2 in 1 เปิดปิดไฟ ผ่าน อินเตอร์เน็ต ด้วย BLYNK / ESP Rainmaker

Blynk คือ แพลตฟอร์ม IoT ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและติดตามอุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดซับซ้อน มีแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่สามารถออกแบบ UI เพื่อควบคุมอุปกรณ์ เช่น  ESP32 ได้โดยตรง

การสร้างโปรเจคการเปิด-ปิดไฟด้วย ESP32 ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยใช้ Blynk เป็นโครงการที่มีประโยชน์มากสำหรับการทำระบบสมาร์ทโฮม สามารถควบคุมไฟฟ้าในบ้านจากที่ไหนก็ได้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ 

การควบคุมการเปิด-ปิดไฟผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย ESP32 และ Blynk มีข้อดีหลายประการ ดังนี้:

1. ความสะดวกสบาย: คุณสามารถควบคุมไฟจากที่ใดก็ได้ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรืออยู่นอกบ้าน ช่วยให้คุณสามารถเปิดหรือปิดไฟได้ตามต้องการ

2. ประหยัดพลังงาน: คุณสามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากลืมปิดไฟเมื่อออกจากบ้าน สามารถปิดผ่านแอป Blynk ได้ทันที ช่วยลดค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3. ความปลอดภัย: คุณสามารถใช้ระบบนี้เพื่อสร้างการจำลองว่ามีคนอยู่ในบ้าน แม้คุณจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการโจรกรรมได้

4. การติดตั้งและใช้งานง่าย: การใช้งาน Blynk ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งสูง สามารถเชื่อมต่อ ESP32 กับแอป Blynk ผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย

5. ความสามารถในการขยายระบบ: Blynk รองรับการควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากไฟ เช่น เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือระบบปรับอากาศ ทำให้สามารถขยายระบบได้ตามความต้องการ

6. รองรับการแจ้งเตือน: คุณสามารถตั้งค่าให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิดหรือปิดไฟ ช่วยให้คุณสามารถติดตามสถานะของไฟในบ้านได้แบบเรียลไทม์

การใช้ ESP32 ควบคู่กับ Blynk นั้นเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการจัดการและควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านอินเทอร์เน็ต


คลิป ทดสอบควบคุมผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

หลักการทำงานของ Blynk กับ ESP32  มีดังนี้:

1. เชื่อมต่อ ESP32 กับ Blynk: ESP32 จะเชื่อมต่อกับแอป Blynk ผ่าน Wi-Fi โดยใช้โค้ดที่กำหนดให้ ESP32 ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Blynk

2. สร้างโปรเจกต์ในแอป Blynk: ผู้ใช้สามารถสร้าง UI บนแอป Blynk เพื่อควบคุมหรือรับข้อมูลจาก ESP32 เช่น การเปิด/ปิดไฟ

3. ส่งข้อมูลระหว่าง ESP32 และ Blynk: ESP32 สามารถส่งข้อมูลเซนเซอร์ไปยังแอป Blynk หรือรับคำสั่งจากแอปเพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์

4. เซิร์ฟเวอร์ Blynk ทำหน้าที่ประสานงาน: เซิร์ฟเวอร์ของ Blynk จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง ESP32 และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในการส่งข้อมูลไปมา

ข้อแตกต่างระหว่าง Blynk แบบเก่า กับ Blynk 2.0 มีดังนี้:

1. การออกแบบและการใช้งาน:

   • Blynk: เวอร์ชันเก่าที่มี UI และการตั้งค่าที่เรียบง่าย แต่จำกัดฟีเจอร์และความยืดหยุ่น
   • Blynk 2.0: มี UI ที่ทันสมัยขึ้น รองรับการจัดการอุปกรณ์จำนวนมากและฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การสร้างแผงควบคุม (Dashboard) ที่สามารถปรับแต่งได้มากกว่า

2. การจัดการอุปกรณ์:

   • Blynk: จำกัดการจัดการอุปกรณ์ในระดับพื้นฐาน
   • Blynk 2.0: มีการจัดการอุปกรณ์ที่ครอบคลุมมากขึ้น รองรับการควบคุมและตรวจสอบหลายอุปกรณ์ในแพลตฟอร์มเดียว

3. ฟีเจอร์ใหม่:

   • Blynk: ฟีเจอร์ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะในเรื่องของการตั้งเวลาและการจัดการข้อมูล
   • Blynk 2.0: เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การเก็บข้อมูลย้อนหลัง (Data History), การแจ้งเตือน (Notifications) ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น, และการเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ ได้ดีขึ้น

4. การสนับสนุนและการพัฒนา:

   • Blynk: อาจไม่ได้รับการอัปเดตหรือการสนับสนุนเพิ่มเติมแล้ว
   • Blynk 2.0: เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาและการสนับสนุนต่อเนื่อง

โดยรวมแล้ว Blynk 2.0 เป็นการปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มเติมจาก Blynk รุ่นแรกเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในยุค IoT.

วิดีโอผลลัพธ์การทำงาน ESP32 เปิด-ปิดไฟ ผ่านอินเตอร์เน็ต ด้วย Blynk

สั่งซื้อชุดอุปกรณ์ : ชุดคิท IoT ESP32 2 in 1 เปิดปิดไฟ ผ่าน อินเตอร์เน็ต ด้วย BLYNK / ESP Rainmaker